ภาพเมื่อครั้งอดีตของ เสี่ยอู๊ด กับ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์
เสี่ยอู๊ด หรือ สิทธิกร บุญฉิม
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก hi5 เสี่ยอู๊ด sittikorn
หลังจากตกเป็นกระแสข่าวดังครึกโครม สำหรับ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และ สาว แอนนี่ บรู๊ค จนทำให้เป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อันดับหนึ่งในสังคมขณะนี้ และดูทีท่าว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่ไม่จบเอาง่าย ๆ เมื่อมีมือที่สามเข้ามาให้ข่าวแฉเรื่องราวทั้งหมดโดยอ้างว่าเป็นเรื่องจริง จนทำให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องอีกหลายคนออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ และประณามทั้งฟิล์มและแอนนี่ให้สถานการณ์ยิ่งเครียดไปกันใหญ่
ล่าสุด เสี่ยอู๊ด หรือ สิทธิกร บุญฉิม ผู้เคยตกเป็นข่าวมีความสัมพันธ์กับ ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และประณามหนุ่มฟิล์มอีกคน ด้วยการเขียนจดหมายความยาวถึง 3 หน้ากระดาษ ออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้เลขาส่วนตัวนำมามอบให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกเผยแพร่ โดยระบุว่ามีหลายสื่อต้องการขอข่าวฟิล์มจากตน ซึ่งตนก็ปฏิเสธทุกสื่อมาโดยตลอด เพราะไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่นานวันข่าวกลับไม่ยอมจบ ตนจึงจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นและฝากข้อความไปถึงฟิล์มสักหน่อย
ภาพเมื่อครั้งอดีตของ เสี่ยอู๊ด กับฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์
โดยเนื้อหาหลัก ๆ ในจดหมายเป็นการประณาม ฟิล์ม รัฐภูมิ ว่าตอนนี้ต่างฝ่ายต่างออกมาพูดให้ตัวเองดูดี เรื่องมันก็ยิ่งไม่จบ โดยเฉพาะฟิล์มที่ออกมาแถลงข่าวแบบนี้ และปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลย ถ้าหากแอนนี่เป็นดาราระดับนางเอกจะท้าตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ พร้อมทั้งบอกให้ ฟิล์ม รัฐภูมิ ยกบ้านที่ตนเองเคยซื้อให้ ให้กับลูกชายของ แอนนี่ บรู๊ค เพื่อเป็นการรับขวัญหลาน
สำหรับข้อความในจดหมายส่วนหนึ่ง มีเนื้อหาดังนี้ "ถ้า หากฟิล์มไม่รับเป็นลูก หรือแอนนี่จะไม่ให้ตรวจดีเอ็นเอก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับผมนั้น สงสารเด็ก และผมก็รู้สึกรักเด็กคนนี้ จึงขอวิงวอนขอร้องฟิล์ม ถ้าไม่รับเป็นลูก พี่อู๊ดจะขอร้องให้ ฟิล์ม ยกกรรมสิทธิ์บ้านหลังที่พี่อู๊ดยกให้มอบต่อให้กับเด็กไป อย่างน้อยวันหน้าถ้าเขาไม่มีพ่อ เขาก็ยังมีบ้านอยู่ และอย่างน้อยบ้านที่เขาอยู่ก็เคยเป็นบ้านของบุคคลที่ใคร ๆ ทั้งประเทศก็รู้ว่า นั่นคือพ่อของเด็ก"
นอกจากนี้ เสี่ยอู๊ด ยังได้ตำหนิบุคคลที่ทำให้ฟิล์มเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม และคอยให้ท้ายในการทำผิด ซึ่งได้แก่
1.ครอบครัวของฟิล์ม ที่เสี่ยอู๊ด มองว่าควรจะจัดการกับพฤติกรรมของลูก ตั้งแต่เด็กยังไม่คลอด แต่กลับปล่อยไว้จนปัญหาบานปลาย และฟิล์มก็แก้ปัญหาตัวเองโดยไม่ถูกต้อง
2. เฮียฮ้อ ที่ เป็นผู้ใหญ่ในต้นสังกัดของฟิล์ม และได้ประโยชน์จากตัวฟิล์ม ซึ่งเสี่ยอู๊ดมองว่า การพูด หรือทำอะไรย่อมขาดความเป็นกลาง แม้สิ่งที่เฮียฮ้อพูดผ่านสื่อจะฟังดูดี แต่สุดท้ายก็เป็นแนวทางเดียวกับฟิล์ม คือ พิพากษาสั่งให้ผู้หญิงไปทำความกระจ่าง ซึ่งเรื่องนี้เฮียฮ้อ ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวล่วง แกมบังคับให้เขาตรวจ หรือไม่ตรวจ DNA เพราะประเด็นอยู่ที่ความรับผิดชอบของฟิล์ม และต้องคำนึงถึงอนาคตของเด็ก ว่า ตอนที่เขาเกิดมาใหม่ ๆ แม่ของเขาถูกคนดูถูกเหยียดหยามมากเพียงใด
3.สื่อมวลชน เนื่องจากเสี่ยอู๊ดเห็นว่า การนำเสนอข่าวโดยยึดผลประโยชน์และอิทธิพล บางสื่อขายข่าวตามกระแส จนลืมความเปราะบางทางความรู้สึก และสร้างปัญหาให้เด็กเก็บกดได้ในอนาคต สื่อควรชั่งน้ำหนักว่า ผู้หญิงผิด หรือผู้ชายผิด และใครควรทำอะไรให้เป็นแบบอย่างให้แก่สังคมในปัจจุบัน นั่นเพราะสตรีเป็นเพศแม่ นึกจะทำอะไรข่มเหงน้ำใจก็ทำกันง่าย ๆ ไม่ได้
อย่างไรก็ดี จากปัญหาที่เกิดขึ้นจนมีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย ทำให้ทางด้าน ฟิล์ม รัฐภูมิ ตัดสินใจออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อเคลียร์ปัญหาทุกอย่าง ในวันที่ 23 กันยายน เวลา 14.00 น. ที่บริษัทอาร์เอส ซอยลาดพร้าว 15
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น