เอาล่ะครับ ทิ้งช่วงให้รอมาพักนึง ต้องขอโทษด้วย พอดีเป็นคน ธุระ ทั้ง ราชทั้งหลวง เยอะจัด 555+
ตอนแรกที่จะนำเสนอเกี่ยวกับ Long Story ที่ตั้งชื่อตอนซะเก๋ชื่อ "Beauty Your CI" เป็นการสร้าง Model (M) ที่มีความสามารถมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ...
เอ่อแล้วก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความนี้ขอให้กลับไปอ่าน มาใช้ "Zend Framework ใน CI กันเถอะ" แล้วทำให้ได้ตามตัวอย่างซะก่อน เพราะถ้าทำไม่ได้ บทความนี้ และต่อๆไปก็จะไร้ความหมายไปในทันที เพราะผมใช้ Zend เยอะมากๆ ...
จุดประสงค์หลักของ Beauty your CI ก็คือการสร้างโคด เอนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติรองรับ เว็บแอพลิเคชั่น ทุกชนิด โดยออกแบบให้ง่าย และรีดประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญและท้าทายที่สุดก็คือ เราจะต้องไม่แตะต้อง โคดอะไรที่อยู่ใน system ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เพื่อใก้อณาคตเราสามารถอัพเดท Version ได้อย่างไม่เป็นปัญหา
ส่วนจุดประสงค์ของวันนี้ก็คือ การเพิ่มความสามารถให้กับ Model นั่นเอง ถ้าเคยเคยไปเปิด model ตัวเดิมของมันดูก็จะเห็นได้ว่า มันไม่มีตัวช่วยอะไรทั้งนั้น เป็นเหมือน mask ตัวนึงเท่านั้นเอง วันนี้เราจะมาแก้ไขมันซะใหม่ โดยใช้
1. Zend DB
2. Zend Cache
เพื่อให้เป็นตัวช่วยของ MY_Model ของเรา
ก่อนอื่นให้ไปสร้าง ไฟล์ที่
/application/libraries/MY_Controller.php ขึ้นมา ใช่แล้วครับ พิพม์ไม่ผิด MY_Controller จริงๆ
เท่านี้แหละครับ จุดประสงค์ของผมก็คือต้องการให้ MY_Controller.php เป็น Bootstrap แล้วก็เป็นตัว include Zend Lib ที่จะถูกใช้งานโดยรวมเข้ามา ในตอนนี้เราต้องการใช้ Zend Cache ใน MY_Model แต่ก็จะมีจุดอื่นๆ ที่ต้องใช้ Zend_Cache ตัวนี้ด้วยเช่น การ Translate การทำ ACL ดังนั้นเอามันไว้ที่นี่แหละ ดีที่สุด
กลับมาที่ MY_Model ของเรา เราจะเปลี่ยนรูปร่างมันเป็นแบบนี้ .....
โดยในโคดชุดนี้มีสิ่งที่อาจจะทำให้โคดคุณ Error ได้ก็คือ
1. $this->config->site_cache_upload_url('database', true)
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมใช้กำนหด path upload cache ครับ แต่ผมเขียนไว้รองรับเรื่องการย้าย File Server ด้วย ในกรณี ขอให้ Force เป็น path ที่จะเก็บ Cache ไปเองก่อนเป็นลักษณะของ Server Path นะครับ
2. 'server' => $this->config->item('cache_server'),
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมต้องการให้ Cache ถูกเก็บใน Memcache ใน config ก็คือ host:port นั่นเอง ตอนนี้ comment ทิ้ง ไปทั้ง line ก่อน
3. $this->config->item('cache_method')
ตรงนี้เป็นส่วนการตั้งค่าครับว่าจะให้ Cache ทำงานด้วยอะไร File, SQLite, Memcached, APC ในตอนนี้ขอให้แก้เป็น File ไปก่อน
ทีนี้ไปดู Config ของผมกัน
Path: /application/config/database.php
จะเห็นได้ว่าผมมี Config อยู่ 2 ตัวคือ master และ slave โดยเครื่อง master ผมจะให้ทำการ insert, update, delete
ส่วน slave ผมจะให้ทำการ Read อย่างเดียว
โดยที่ slave จะเป็น Replicate DB ของ master (ถ้าใครมี db ตัวเดียว set ให้ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันก็จบ)
จากตัวอย่างนี้เราจะใช้งานยังๆไงต่อ ?
สมมุติผมมี blogs เป็น controller ตัวนึง
ส่วน model ของ blogs ล่ะ ทำยังไง ?
ให้สังเกตุ method ของ model นะครับ ในส่วนของ การ update delete fetch มีการทำงานของ cache อย่างสมบูณ์ ทำให้ cache ท่จะได้มี data สดอยู่เสมอ
เท่านี้ MY_Model ของเราก็มีตัวช่วยเพิ่มมากขึ้นแล้วครับ ทั้ง Zend_Db และ Zend_Cache ที่มักจะเอามาใช้อยู่ตลอดเวลาใน model โดยเราไม่ต้องเรียกโหลด
สำหรับบทความนี้ทำให้เราลืม
1. CI DB
2. CI Cache
เก็บขึ้นหิ้งไปเลยครับ CI DB อาจจะมีโอกาสใช้ในอีกบางเรื่องเดี๋ยวจะบอก ….
ส่วนเรื่องการใช้ fetch แลพ select ของ Zend ขอให้ไปอ่านที่
http://framework.zend.com/manual/en/zend.db.select.html
http://framework.zend.com/manual/en/zend.db.statement.html
ส่วนเรื่อง Cache มันคงไม่มีมากกว่าที่ผมเขียนเท่าไหร่แล้วสำหรับ Cache DB ลองไล่โคดผมดูคิดว่าน่าจะเข้าใจพอ
จบ แล้วครับสำหรับ บทที่ 1 Beauty My Model ยังไงทำกันให้ได้นะครับ จุดนี้คือ Core ถ้าทำไม่ได้ คงไปต่อไม่ได้ แต่ถ้าติดจริงๆ ส่งเมล์มาขอ Open Source ผมได้ แต่อาจจะงง หนักกว่าเก่า เพราะมันเป็น CI Ready To Code ที่โมจนเสร็จหมดทุกจุดแล้ว
Ps. โคดที่เขียนบางส่วนเพิ่งเขียนสดๆ มันใน บล๊อกนี่ล่ะ แน่นอนมันต้อง error บ้างอยู่แล้ว แต่คงไม่มาก ก็คนมันง่วงนี่หว่า -*-
สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์
ตอนแรกที่จะนำเสนอเกี่ยวกับ Long Story ที่ตั้งชื่อตอนซะเก๋ชื่อ "Beauty Your CI" เป็นการสร้าง Model (M) ที่มีความสามารถมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ...
เอ่อแล้วก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความนี้ขอให้กลับไปอ่าน มาใช้ "Zend Framework ใน CI กันเถอะ" แล้วทำให้ได้ตามตัวอย่างซะก่อน เพราะถ้าทำไม่ได้ บทความนี้ และต่อๆไปก็จะไร้ความหมายไปในทันที เพราะผมใช้ Zend เยอะมากๆ ...
จุดประสงค์หลักของ Beauty your CI ก็คือการสร้างโคด เอนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติรองรับ เว็บแอพลิเคชั่น ทุกชนิด โดยออกแบบให้ง่าย และรีดประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญและท้าทายที่สุดก็คือ เราจะต้องไม่แตะต้อง โคดอะไรที่อยู่ใน system ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เพื่อใก้อณาคตเราสามารถอัพเดท Version ได้อย่างไม่เป็นปัญหา
ส่วนจุดประสงค์ของวันนี้ก็คือ การเพิ่มความสามารถให้กับ Model นั่นเอง ถ้าเคยเคยไปเปิด model ตัวเดิมของมันดูก็จะเห็นได้ว่า มันไม่มีตัวช่วยอะไรทั้งนั้น เป็นเหมือน mask ตัวนึงเท่านั้นเอง วันนี้เราจะมาแก้ไขมันซะใหม่ โดยใช้
1. Zend DB
2. Zend Cache
เพื่อให้เป็นตัวช่วยของ MY_Model ของเรา
ก่อนอื่นให้ไปสร้าง ไฟล์ที่
/application/libraries/MY_Controller.php ขึ้นมา ใช่แล้วครับ พิพม์ไม่ผิด MY_Controller จริงๆ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 | <? php if (!defined(‘BASEPATH’)) exit(‘No direct script access allowed’); require_once(‘Zend/Registry.php’); require_once(‘Zend/Locale.php’); require_once(‘Zend/Cache.php’); require_once(‘Zend/Date.php’); require_once(‘Zend/Session.php’); class MY_Controller extends Controller { function __construct() { parent::Controller(); } } ?> |
เท่านี้แหละครับ จุดประสงค์ของผมก็คือต้องการให้ MY_Controller.php เป็น Bootstrap แล้วก็เป็นตัว include Zend Lib ที่จะถูกใช้งานโดยรวมเข้ามา ในตอนนี้เราต้องการใช้ Zend Cache ใน MY_Model แต่ก็จะมีจุดอื่นๆ ที่ต้องใช้ Zend_Cache ตัวนี้ด้วยเช่น การ Translate การทำ ACL ดังนั้นเอามันไว้ที่นี่แหละ ดีที่สุด
กลับมาที่ MY_Model ของเรา เราจะเปลี่ยนรูปร่างมันเป็นแบบนี้ .....
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167 168 169 170 171 172 173 174 175 176 177 178 179 180 181 182 183 184 185 186 187 188 189 190 191 192 193 194 195 196 197 198 199 200 201 202 203 204 205 206 207 208 209 210 211 212 213 214 215 216 217 218 219 220 221 222 223 224 225 226 227 228 229 230 231 232 233 234 235 236 237 238 239 240 241 242 243 244 245 246 247 248 249 250 251 252 253 254 255 256 257 258 259 260 261 262 263 264 265 266 267 268 269 270 271 272 273 274 275 276 277 278 279 280 281 282 283 284 285 286 287 288 289 290 291 292 293 294 295 296 297 298 299 300 301 302 303 304 305 306 307 308 309 310 311 312 313 314 315 316 317 318 319 320 321 322 323 324 325 326 327 328 329 330 331 332 333 | <? php if (!defined('BASEPATH')) exit('No direct script access allowed'); require_once('Zend/Db.php'); require_once('Zend/Db/Expr.php'); class MY_Model extends Model { public $ parent_name = null ; public $ tbname = null ; private $ _hasLoadConstructor = false ; private static $ _conn = null ; private static $ _cache = null ; public function __construct() { parent::_assign_libraries( (method_exists($this, '__get') OR method_exists($this, '__set')) ? FALSE : TRUE ); $this->parent_name = strtolower(get_class($this)); if (!$this->_hasLoadConstructor) { if (!isset(parent::$_cache)) { $cacheFrontends = array( 'lifetime' => 3600, 'automatic_serialization' => true ); $cacheBackends = array( 'cache_dir' => $this->config->site_cache_upload_url('database', true), 'file_name_prefix' => 'db', 'hashed_directory_umask' => '0777', 'cache_file_umask' => '644', 'hashed_directory_level' => '0', 'server' => $this->config->item('cache_server'), 'compression' => true ); self::$_cache = Zend_Cache::factory('Core', $this->config->item('cache_method'), $cacheFrontends, $cacheBackends); } $this->_hasLoadConstructor = true; } log_message('debug', "Model Class Initialized"); } public function connect($profile=null) { require(APPPATH.'config/database.php'); if (is_null($profile)) { $profile = $active_group; } $dbConf = $db[$profile]; $params = array( 'host' => $dbConf['hostname'], 'username' => $dbConf['username'], 'password' => $dbConf['password'], 'dbname' => $dbConf['database'] ); $conn = Zend_Db::factory($dbConf['dbdriver'], $params); if ($dbConf['char_set'] && $dbConf['dbcollat']) { $conn->Query('SET character_set_results='.$dbConf['char_set']); $conn->Query('SET collation_connection='.$dbConf['dbcollat']); $conn->Query('SET NAMES '.$dbConf['char_set']); } self::$_conn = $conn; } public function qoute($string) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->quoteIdentifier($string); } public function select() { $this->connect('slave'); return self::$_conn->select(); } public function fetchObject($sql, $attrs=null) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->fetchObject($sql, $attrs); } public function fetchAll($sql, $attrs=null) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->fetchAll($sql, $attrs); } public function fetchRow($sql, $attrs=null) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->fetchRow($sql, $attrs); } public function fetchOne($sql, $attrs=null) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->fetchOne($sql, $attrs); } public function fetchCol($sql, $attrs=null) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->fetchCol($sql, $attrs); } public function fetchPair($sql, $attrs=null) { $this->connect('slave'); return self::$_conn->fetchPair($sql, $attrs); } public function insert($table, $data) { $this->connect(null); if (self::$_conn->insert($table, $data)) { return self::$_conn->lastInsertId(); } return false; } public function update($table, $data, $where) { $this->connect(null); return self::$_conn->update($table, $data, $where); } public function delete($table, $where) { $this->connect(null); return self::$_conn->delete($table, $where); } public function expr($string) { return new Zend_Db_Expr($string); } public function cacheSave($key, $data, $specificLifetime=false) { return self::$_cache->save($data, (string)$key, array(), $specificLifetime); } public function cacheLoad($key) { return self::$_cache->load((string)$key); } public function cacheRemove($key) { return self::$_cache->remove((string)$key); } } ?> |
โดยในโคดชุดนี้มีสิ่งที่อาจจะทำให้โคดคุณ Error ได้ก็คือ
1. $this->config->site_cache_upload_url('database', true)
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมใช้กำนหด path upload cache ครับ แต่ผมเขียนไว้รองรับเรื่องการย้าย File Server ด้วย ในกรณี ขอให้ Force เป็น path ที่จะเก็บ Cache ไปเองก่อนเป็นลักษณะของ Server Path นะครับ
2. 'server' => $this->config->item('cache_server'),
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมต้องการให้ Cache ถูกเก็บใน Memcache ใน config ก็คือ host:port นั่นเอง ตอนนี้ comment ทิ้ง ไปทั้ง line ก่อน
3. $this->config->item('cache_method')
ตรงนี้เป็นส่วนการตั้งค่าครับว่าจะให้ Cache ทำงานด้วยอะไร File, SQLite, Memcached, APC ในตอนนี้ขอให้แก้เป็น File ไปก่อน
ทีนี้ไปดู Config ของผมกัน
Path: /application/config/database.php
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 | $active_group = "master"; $active_record = TRUE; $db['master']['hostname'] = "localhost"; $db['master']['username'] = "root"; $db['master']['password'] = "123"; $db['master']['database'] = "codeigniter"; $db['master']['dbdriver'] = "Mysqli"; $db['master']['dbprefix'] = ""; $db['master']['pconnect'] = TRUE; $db['master']['db_debug'] = TRUE; $db['master']['cache_on'] = FALSE; $db['master']['cachedir'] = ""; $db['master']['char_set'] = "utf8"; $db['master']['dbcollat'] = "utf8_general_ci"; $db['slave']['hostname'] = "localhost"; $db['slave']['username'] = "root"; $db['slave']['password'] = "123"; $db['slave']['database'] = "codeigniter"; $db['slave']['dbdriver'] = "Mysqli"; $db['slave']['dbprefix'] = ""; $db['slave']['pconnect'] = TRUE; $db['slave']['db_debug'] = TRUE; $db['slave']['cache_on'] = FALSE; $db['slave']['cachedir'] = ""; $db['slave']['char_set'] = "utf8"; $db['slave']['dbcollat'] = "utf8_general_ci"; |
จะเห็นได้ว่าผมมี Config อยู่ 2 ตัวคือ master และ slave โดยเครื่อง master ผมจะให้ทำการ insert, update, delete
ส่วน slave ผมจะให้ทำการ Read อย่างเดียว
โดยที่ slave จะเป็น Replicate DB ของ master (ถ้าใครมี db ตัวเดียว set ให้ทั้ง 2 ตัวเหมือนกันก็จบ)
จากตัวอย่างนี้เราจะใช้งานยังๆไงต่อ ?
สมมุติผมมี blogs เป็น controller ตัวนึง
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 | <? php class Blogs extends MY_Controller{ function __construct() { parent::__construct(); } function index() { $this->load->model(‘model_blogs’, ‘blogs’); $data = $this->blogs->fetchAll(); print_r($data); } } ?> |
ส่วน model ของ blogs ล่ะ ทำยังไง ?
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 | <?php class model_blogs extends MY_Model { function __construct() { parent::__constrct(); } function fetchAll() { $select = parent::select(); $select ->from(‘blogs’)->order(‘id DESC’); return parent::fetchAll( $select ); } function fetch( $id ) { if ( $row = parent::cacheLoad(‘blog’ . $id )) { $select = parent::select(); $select ->from(‘blogs’)->where(‘id=?’, $id ); $row = parent::fetchRow( $select ); parent::cacheSave(‘blog’ . $id , $row ); } } function update( $data , $id ) { if (parent::update(‘blogs’, $data , ‘id=’ . $id )) { parent::cacheRemove(‘blogs’ . $id ) } return true; } function delete ( $id ) { if (parent:: delete (‘blogs’, ‘id=’ . $id )) { parent::cacheRemove(‘blog’ . $id ); } returm true; } function insert( $data ) { return parent::insert(‘blogs’, $data ); } } ?> |
ให้สังเกตุ method ของ model นะครับ ในส่วนของ การ update delete fetch มีการทำงานของ cache อย่างสมบูณ์ ทำให้ cache ท่จะได้มี data สดอยู่เสมอ
เท่านี้ MY_Model ของเราก็มีตัวช่วยเพิ่มมากขึ้นแล้วครับ ทั้ง Zend_Db และ Zend_Cache ที่มักจะเอามาใช้อยู่ตลอดเวลาใน model โดยเราไม่ต้องเรียกโหลด
สำหรับบทความนี้ทำให้เราลืม
1. CI DB
2. CI Cache
เก็บขึ้นหิ้งไปเลยครับ CI DB อาจจะมีโอกาสใช้ในอีกบางเรื่องเดี๋ยวจะบอก ….
ส่วนเรื่องการใช้ fetch แลพ select ของ Zend ขอให้ไปอ่านที่
http://framework.zend.com/manual/en/zend.db.select.html
http://framework.zend.com/manual/en/zend.db.statement.html
ส่วนเรื่อง Cache มันคงไม่มีมากกว่าที่ผมเขียนเท่าไหร่แล้วสำหรับ Cache DB ลองไล่โคดผมดูคิดว่าน่าจะเข้าใจพอ
จบ แล้วครับสำหรับ บทที่ 1 Beauty My Model ยังไงทำกันให้ได้นะครับ จุดนี้คือ Core ถ้าทำไม่ได้ คงไปต่อไม่ได้ แต่ถ้าติดจริงๆ ส่งเมล์มาขอ Open Source ผมได้ แต่อาจจะงง หนักกว่าเก่า เพราะมันเป็น CI Ready To Code ที่โมจนเสร็จหมดทุกจุดแล้ว
Ps. โคดที่เขียนบางส่วนเพิ่งเขียนสดๆ มันใน บล๊อกนี่ล่ะ แน่นอนมันต้อง error บ้างอยู่แล้ว แต่คงไม่มาก ก็คนมันง่วงนี่หว่า -*-
สำหรับวันนี้ ราตรีสวัสดิ์
บทความดีๆจาก http://www.jquerytips.com/blogs/view/1007/Beauty-Your-CI-Step-1-Beauty-My-Model
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น